เมื่อกล่าวถึงความเชื่อ และความศรัทธาซึ่งในแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคในประเทศไทยมีมากมาย หลายแบบ
แตกต่างกัน ซึ่งความเชื่อและความศรัทธาล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาแทบทั้งสิ้น
ไอ้ไข่ หรือ ตาไข่เด็กวัดเจดีย์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรอบบริเวณวัดแล้ว วัดเจดีย์ก็ไม่แตกต่างกับวัดทั่วๆไปในประเทศไทยแต่สิ่งที่แปลก
และเป็นที่เคารพศรัทธา นับถือ ของชาวบ้านในละแวกนั้นและผู้คนทั่วสาระทิศคือ คือ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์
ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไขวัดเจดีย์ เป็นรูปไม้แกะสลักเป็นรูปเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบ
สวมชุดลายพรางทหารสวมแว่นตาดำ ซึ่งมาจากสิ่งของที่ชาวบ้านที่นับถือศรัทธานำมาถวายแก้บน
สังเกตบริเวณปากทางเข้าวัดจะมีรูปปั้นไก่ชนจำนนวนมากวางอยู่บริเวณใกล้กับปากทางเข้าวัดและใกล้ๆกัน
มีร่องรอยการจุดประทัด เศษชิ้นส่วนของประทัดกองอยู่เป็นเนินสูงและมีผู้คนเข้าออกมาไหว้พระ
และต่อด้วยไหว้แก้บนกับรูปแกะสลักไอ้ไข่ จุดประทัดกันอยู่เนื่องๆ นั้นคงแสดงถึงเหตุผล
หรือความเชื่ออะไรบ้างอย่าง ?
นาย เรียม ผิวล้วน ชาวบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดเล่าให้ฟังว่า
วัดเจดีย์เมื่อก่อนเป็นวัดที่รกร้างมาประมาณ 1,000 ปี แล้ว ได้บูรณะใหม่เมื่อปี่ พ.ศ. 2500
ซึ่งที่ ที่กำลังก่อสร้างอุโบสถอยู่นั้นเมื่อก่อนเป็นเจดีย์รกร้างชาวบ้านไม่กล้าเข้าไป
ส่วนประวัติของ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ ทำไมถึงเรียกเชื่อแตกต่างกัน?
ได้รับคำตอบว่าเมื่อพิจารณาอายุของไอ้ไข่แล้วอายุหลายปีแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าคงไม่เหมาะสมที่ลูกหลาน
เด็กรุ่นใหม่จะเรียก “ไอ้ไข่” สมควรเรียก “ตาไข่” ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า
มีการเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้นเมื่อก่อนได้มี
หลวงปู่ทวดซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ได้มาปักกรด เดินธุดงค์ อยู่บริเวณนั้น ส่วนไอ้ไข่
นั้นเชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบเป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวด
เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าวกลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติ และ ศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมากซึ่งได้ให้
ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว ณ ที่นั้น และหมู่บ้านนั้นภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านโพธิ์เสด็จ”
จวบเท่าปัจจุบันหลังจากปี พ.ศ. 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักข้างแรมภายในบริเวณวัดเจดีย์
ถ้าไม่เอ่ยชื่อ หรือบอกล่าว หรือขอขมาต่อไอ้ไข่แล้ว จะนอนไม่ได้ มีการก่อกวนทั้งคืนเช่น
เมื่อทำท่าจะหลับจะมีเด็กเอามือมาตีศรีษะบ้าง ดึงขา ดึงแขนบ้าง ก่อกวน
ตามประสาแบบเด็กๆทั้งคืน เมื่อปี พ.ศ. 2526 พ่อท่านเทิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ในขณะนั้น
ได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่ เป็นรุ่นแรก พร้อมกับพัฒนาวัดเรื่อยมาแต่ในพื้นที่ขณะนั้นยังเป็น
“พื้นที่สีชมพู” คือยังมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทางราชการจึงส่งทหารพร
านประมาณหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่วัดเจดีย์ ซึ่งก็ปรากฏการณ์เช่นเดียวกันคือ
เมื่อทหารกำลังหลับรู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขาบ้าง ดึงแขนบ้าง เอาปืนตีศรีษะบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง
จนไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อรุ่งเช้าทหารพรานชุดดังกล่าวจึงได้ไปสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้ๆกับวัดเจดีย์
พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังชาวบ้านฟัง ชาวบ้านละแวกนั้นรู้เรื่องราว และเกียติศักดิ์ของไอ้ไข่
เป็นอย่างดีจึงได้บอกวิธีการแก้ไข คือ ก่อนกินข้าวหุงเตรียมอาหารต้องเอ่ยถึง ไอ้ไข่ซึ่งสถิตอยู่ ณ ที่นั้นด้วย
หลังจากเมื่อทหารพรานชุดดังกล่าวได้ทำตามที่ชาวบ้านแนะนำแล้วคืนต่อมาก็
นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบายเนื้อ และสบายใจ ปราศจากการรบกวนของเด็ก
ซึ่งลุงเรียม ยังกล่าวเน้นคำว่า สัตย์จะ เป็นเรื่องสำคัญมากเท่าที่ประสบและเจอมา
เมื่อบ่นบานศาลกล่าวอะไร ก็ต้องนำสิ่งของนั้นมาแก้บนด้วย แล้วลุงก็ตอบอย่างมั่นใจว่า
“ขอให้ไหว้รับอย่างแน่นอน”
爱孩 瓦接滴 (Ai khlai Watjadee) 在这段时间 在泰南部有很多的对爱孩的善信者
都经常在中奖 在宋卡府的合艾市 连中了半条街道,(帕东帕滴三街道) 所以这段时间庙里很热闹
鞭炮声每天都听到 可能是因为有求必应的功效吧
爱孩的传迹到现在已经有七辈人的故事了,听说以龙婆陀 瓦昌亥(Luang phor tuad Watchanghai)
高僧(龙婆陀是400年多前在泰国的南部是个很著名的高僧,直到现在,
大多处泰国人都有带龙婆陀的牌,得平安牌名之冠)
村民认为爱孩的灵魂经常跟随着龙婆陀,是龙婆陀子弟。
当 时龙婆陀就经常到瓦接滴庙附近化缘,来到庙附近的时候,
看到一个9-10岁灵魂正在看守着很多金银财宝,
因为当地有很多的宝藏场和财神,龙婆陀发现到这些财神 把所有的金银财宝都给了爱孩看护,
这些财神魂都潜伏到爱孩的灵魂身上,让爱孩好以看守金银财宝
|