ประวัติพระอนุชา อนุชาโต โดยย่อ
ท่านเกิดวันที่ 23 เดือนสิงหาคม ปี 2507 ณ บ้านหลักเมตร ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
โดยหมอตำแย สกุลของบิดาคือ ทัพโพธิ์ สกุลของมารดาคือ สวนแก้ว
เมื่ออายุ 11 ขวบ ได้ย้ายมาเรียนที่วัดหนองม่วง ต.วังเย็น อ.บางแพ 
จ.ราชบุรี จนจบ ป.4 และไม่ได้เรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านที่ยากจน ด้วยความที่บ้านยากจนและห่างจากวัดเพียง 500 เมตร จึงมาเป็นเด็กวัดคอยปฏิบัติ หลวงพ่อสง่า ทำทุกอย่างที่ทำได้ รวมถึงล้างบาตรให้หลวงพ่อ
หลวงพ่อสง่าจึงเมตตา สอนพระเวทย์ให้ตั้งแต่อายุ 16 ปี
หลวงพี่อนุชา บวชครั้งแรกปี พ.ศ.2527 ที่วัดหนองโพธิ์ อ.เมือง 
จ.นครปฐม และสอบนักธรรมตรีได้ในปีแรก และได้สึกออกมาช่วยงานมารดา เหตุที่อยากเรียนพระเวทย์เพราะสมัยยังไม่ได้ย้ายมาหนองม่วง
ท่านต้องเดินไปเรียนไกลถึง 7 กิโลเมตร และต้องเดินทางรกๆ
เพราะเดินทางถนนไม่ได้ หมาตามถนนที่มีจำนวนมากค่อยที่จะกัด
ท่านบอกว่า เดินไปแหว่งกระเป๋านักเรียนไป ร้องไห้ไป เพราะกลัวหมา
ที่จะรุมกัด จึงมีความคิดว่าจะมีวิธีใด ที่จะทำให้หมาไม่กัด ถึงกัดก็ไม่เข้า
ในการบวชหนหลัง....
ท่านได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2552 ณ พัทธสีมา 
วัดโพธิ์ราชบูรณะ ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี 
โดยมีพระครูวาทีธรรมวัฒน์ เป็นพระอุปัชฌาย์ 
หลวงพี่อนุชาได้สอบ นักธรรม ตรี โท เอก ตามลำดับ จนจบนักธรรมเอก
แล้วจึงได้ศึกษาพระเวทย์ อย่างจริงจังอีกครั้ง โดยได้รับพานครูเรื่องของการเสกปลักขิกจาก... 
1.หลวงปู่นนท์ วัดเขาพราณธูป ในปี2556 (สายหลวงพ่อทองสุข หลวงพ่อยิด) 
2.หลวงพ่อบุณค้ำ วัดไชยเภรีย์ ในปี2558 (สายหลวงพ่ออี๋) 
3.หลวงปู่โอด วัดบางม่วง ในปี2558 (สายหลวงพ่อเหลือ) 
หากแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการร่ำเรียนจากหลวงพ่อสง่า และ ตำราโบราณด้วยตัวเองเป็นหลัก หากแต่การไปยกพานครูนั้นเพื่อ ขออนุญาตครูบาอาจารย์ เพื่อใช้อักขระ เลขยันต์ ให้สมบูรณ์ เท่านั้น ที่ผ่านมา มีการเล่าขานถึงตำนาน การเสกวัตถุมงคล ให้โดดได้ดิ้นได้นั้นมีการพูดถึงมานาน หากมีเพียงการบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น แต่ ในปัจจุบันมีการสื่อสารที่ทันสมัย จนทำให้มีการบันทึกด้วยคลิปวีดีโอ อย่างแพร่หลาย หลวงพี่อนุชา พูดเสมอว่าท่านเองเคารพ และเทิดทูนหลวงปู่นนท์มากยิ่ง เพราะเห็นกับตาและสามารถจับต้องได้
หลวงพี่อนุชา มีจิตภาวนา ว่าจะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นอันดับแรก มิได้มุ่งเน้นแต่จะเสกวัตถุมงคล หากแต่ก็โดนลูกศิษย์รบเล้าให้เสกให้ทุกวัน ในการเสกหลวงพี่จะพูดเสมอว่า อย่าเอาคลิปที่ไม่สมควรไปลง เช่นการลองมีด ลองปืน เพราะเป็นการอวดคุณวิเศษผิดวินัยสงฆ์ ในชีวิตประจำวันพรรษาแรก ท่านไปปักกลด ในป่าช้า ภายในวัด จนผ่านไป 1 พรรษา ลูกศิษย์จึงได้นิมนต์ให้ท่านมาจำวัตบนกุฏิเพราะกลัวไข้เลือดออก แต่ท่านไม่ยอมจึงได้ไปเก็บกวาด ศาลาธรรมสังเวช(โรงทึม) หรือ ศาลาสวดศพเก่า ที่มิได้ใช้แล้ว ทั้งยังรกล้างมาใช้เป็นที่จำวัดแทน ภายในศาลาเรียบง่าย ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น มีเพียงพัดลม 3-4ตัวเพื่อไล่ยุงและเพื่อญาติโยมที่มาหาให้คลายร้อนเท่านั้น