หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม เกจิดังแห่งปราจีนบุรี巴真武里著名大師文瑪喬蒂圖Reverend Grandfather Bunma Chotithummo, the famous master of Prachinburi莫祖父
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม
สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
◎ ชาติภูมิ
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ ปีเถาะ ในสกุล “จิตศรี” บิดาชื่อ นายพ่วง และมารดาชื่อ นางทองคำ จิตศรี ไผ่เจริญ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ท่านเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัว ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๔ คน ดังนี้
๑. นางเลียบ จิตศรี
๒. นายบุญมา จิตศรี (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม)
๓. นายสุวิทย์ จิตศรี
๔. นางสมหมาย จิตศรี
◎ ปฐมวัย
ครอบครัวมีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านก็พอมีพอกินปานกลาง แต่มาระยะหลังมีลูก ๔ คน ทำให้อาหารการกินฝืดเคือง เด็กชายบุญมาเจริญวัยตามกาลเวลา จวนจบกระทั่งถึงวัยที่จะต้องได้รับการศึกษาเล่าเรียน ผู้เป็นพ่อส่งเด็กชายบุญมาให้ไปอยู่กับ หลวงพ่อเขียน หรือ พระครูประสารวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านกุง ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเด็กชายบุญมา มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อเขียน สมัยนั้นหลวงพ่อเขียนเป็นพระเกจิอาจารย์เก่งทางด้านอยู่ยงคงกระพัน เด็กชายบุญมาได้อยู่รับใช้หลวงพ่อเขียน และศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดบ้านกุง
จนกระทั่งจบการศึกษาประชาบาลชั้นประถมปีที่ ๓ นายพ่วงผู้เป็นพ่อก็ไปรับตัวกลับให้มาอยู่กับ “หลวงปู่เอี่ยม” พระเกจิอาจารย์ที่มีคนให้ความเคารพนับถือกันมาก ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” หลวงปู่เอี่ยมนั้น มีวิชาอยู่ยงคงกระพันชาตรี หลวงปู่เอี่ยม รับเด็กชายบุญมาไว้เป็นลูกศิษย์แล้วก็ส่งให้เรียนต่อชั้นประถมปีที่ ๔ จนจบ พอโตเป็นหนุ่มหลวงปู่เอี่ยมก็สอนวิชาอาคม ให้ร่ำเรียนอักขระวิชาต่างๆ ฝึกให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ สอนการนั่งวิปัสสนากรรมฐานขั้นต้นให้
◎ อุปสมบท
นายบุญมาใช้ชีวิตทางโลกอยู่จนกระทั่งอายุ ๒๕ ปี เข้าวัยเบญจเพศจึงหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นศิษย์พระตถาคตเจริญรอยตามพระพุทธองค์ โกนหัวปวารณาตัวอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดทุ่งแฝก หมู่ ๒ ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี พระครูศรีวิเลิศ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สวัสดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการกรอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “โชติธมฺโม” แปลว่า “ผู้มีความสว่างในธรรม, ผู้โชติช่วงในพระธรรม”
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทองหลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
เมื่อบวชแล้ว ภิกษุหนุ่มนามบุญมาก็ศึกษาพระธรรมวินัย จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในเวลาต่อมา ในระหว่างนั้นเองทางวัดบ้านแก่ง ว่างสมภารลง หลวงพ่อใหญ่ก็ได้สั่งให้ พระอธิการบุญมา มาเป็นสมภารวัดบ้านแก่ง สืบแทนหลวงพ่อทองดีที่มรณภาพ พระอธิการบุญมา พอมาอยู่วัดบ้านแก่ง ก็ทำนุบำรุงพัฒนาวัดตามแต่อัตภาพ สมัยนั้นวัดบ้านแก่งและหมู่บ้านค่อนข้างทุรกันดาร ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ความเป็นอยู่ของชาวบ้านไม่ค่อยดี วัดก็เลยไม่รุ่งเรืองตามสภาพ ขณะอยู่วัดพระอธิการบุญมาก็ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน โดยเฉพาะพระกรรมฐานนั้น พระอธิการบุญมาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้รับถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่เอี่ยมนำมาปฏิบัติด้วยตนเองอย่างเคร่งครัด
พระครูสุนทรโชติธรรม (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม) ได้ปฏิบติกัมมัฏฐาน โดยกำหนดเอาแสงสว่างจากเปลวเทียนเป็นหลัก เพ่งกสิณจากเปลวแสงเทียนที่เรียกกันว่า “เตโชกสิณ” คือ การทำสมาธิจิตเพ่งแสงสว่างแห่งเปลวไฟ กำหนดเอาธาตุทั้ง ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นมั่นคง แล้วพุ่งกระแสจิตสู่สิ่งที่กำหนดนั้น จนดวงจิตสงบนิ่งบังเกิดความสว่างขึ้นกลางมโนจิต อันเป็นการบรรลุมรรคผลในระดับหนึ่ง นั่นคือการสามารถกำหนดจิตให้เป็นสมาธิอันแน่วนิ่งและมั่นคงได้ จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบของการบำเพ็ญพระกรรมฐานและการทำกสิณ ตลอดเวลาท่านได้พัฒนาวัดบ้านแก่งมาตลอด จนสามารถสร้างกุฏิ สร้างศาลาการเปรียญ และสร้างโบสถ์ใหม่ได้สำเร็จ ยกช่อฟ้าอุโบสถและ ผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนี้ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ท่านยังให้การอุปถัมภ์วัดโนนฝาวพุทธาราม ในการสร้างพระอุโบสถจนแล้วเสร็จและได้ทำการยกช่อฟ้าพระอุโบสถและผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมถึงท่านยังให้การอุปถัมภ์ในการก่อสร้างศาสนสถานในวัดอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยบารมีของ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ทำให้ท่านมีคณะศิษยานุศิษย์มากมาย มีตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ อธิบดี ข้าราชการ ดารา นักร้อง นักกีฬา รวมถึงประชาชนทุกสาขาอาชีพ
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทองหลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
ปัจจุบัน พระครูสุนทรโชติธรรม (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม) สิริอายุได้ ๘๒ ปี (พ.ศ.๒๕๖๔) ท่านได้มาพักจำพรรษา ณ สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งกำลังดำเนินการปรับพื้นที่ สร้างซุ้มประตูวัด กุฎิสงฆ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา ศาลาหอฉัน และงานที่สำคัญของหลวงปู่ คือ สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อที่สาธุชนและศิษยานุศิษย์ จะได้ใช้ประโยชน์ ในการประกอบงานบุญต่างๆ เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาสืบไป
 
 
祖父布瑪·喬提達摩的傳記和著作
考開通寺巴真府甲民武里縣
◎ 聊天室
祖父 Bunma Chotithammo 於 1939 年 11 月 7 日星期二,兔年出生,姓“Jitsri”。父親的名字是 Phuang,母親的名字是 Thongkham Jitsri Phaicharoen 夫人。家庭第二兄弟姐妹總數中,4人如下:
1. Liab Chitsri 夫人
2. Boonma Jitsri 先生 (Luang Pu Bunma Chotithammo)
3. Suwit Jitsri 先生
4. Sommai Jitsri 夫人
◎ 初級
家庭是農民。房子的地位,吃得適中。但最近生了4個孩子,吃不下飯Boonma 男孩隨著時間的推移而長大。直到必須接受教育的年齡結束父親送男孩 Bun 與 Luang Por Khian 或 Phrakhru Prasarnwutthikhun 住在一起。甲民武里府 Bo Thong 分區 Wat Ban Kung 住持巴真府哪個男孩文馬Meesak 是 Luang Por Khian 的孫子。當時,龍波作為無敵領域的偉大導師寫作。男孩 Bunma 是為 Luang Phor Khian 服務的。並在Wat Ban Kung學校學習
直到他小學三年級畢業,他的父親龐先生才帶他回去和他一起生活。 “Luang Pu Iam”,一位非常尊敬的僧人。村民打電話“Luang Por Yai”,即 Luang Pu Iam有無敵的科目。龍普岩收養文童為弟子,送他讀四年級,直到他長大後,龍普岩教魔術。研究不同學科的特點訓練你的思想進行冥想。教授基本的內觀冥想。
◎ 出家
Boonma 先生一直過著世俗的生活,直到他 25 歲。當他到了五歲時,他轉向了 Rom Kasavapat。身為如來弟子,追隨佛法甲民武里街道第 2 村通發寺 Phatthasima 剃頭甲民武里區巴真府,與 Phrakhru Sriwilert導師帕阿贊薩瓦作為和尚過濾牧師是一座紀念碑他被暱稱為“Chotidhammo”,意思是“在佛法中光明的人,在佛法中發光的人”。
考開通寺的祖父本瑪喬提塔莫牧師
出家後,一位名叫文瑪的年輕比丘研究了佛法和律律。直到以後可以參加 Dharma Ek 考試與此同時,Ban Kaeng Temple Wang Sompharnlong、Luang Por Yai 下令布瑪主教成為Wat Ban Kaeng的成員Luang Por Thongdee 的繼任者布瑪主教當我來到Wat Ban Kaeng根據自然維護和發展寺廟那時班慶寺和村子都比較偏僻。繁榮尚未到來村民的福祉並不好。因此,這座寺廟並沒有像現在這樣繁榮。在寺廟裡,帕律師 Boonma 練習了內觀冥想。尤其是冥想功勳校長特別注意。接受龍普岩的教導,嚴格自律
Phrakhru Sunthornchotham (Reverend Grandfather Bunma Chotithammo)已經練習了基礎。通過將來自蠟燭火焰的光定義為主要專注於燭光,稱為“Techoksin”,是專注於火焰之光的心靈冥想。確定四個元素中哪個是穩定的然後將心靈感應指向那個特定的東西直到心平靜下來,心中出現一道光達到一定程度的路徑也就是說,能夠讓心進入穩定和穩定的定力。因此,它被認為通過了冥想和執行Kasin的測試。他一直在開發Wat Ban Kaeng。直到你可以建造一個小隔間建亭並成功建造了一座新教堂舉起烏博索的天空花束並系上佛塔西瑪,鍍金並嵌入Luk Nimit有泰國人和外國人的信徒。
此外,Bunma Chotithammo 祖父還光顧了 Wat Non Fawa Phuttharam。在 Ubosot 的建造中,直到 Ubosot 完成,Ubosot 的花束被舉起,Phatthasima 在 2018 年鍍金和鍍金並埋葬了 Luk Nimit,他還贊助了許多其他寺廟的建設。
以龍普班瑪秋塔摩的威望,他的弟子很多。從部長級軍隊領導、總幹事、公務員、名人、歌手、運動員,包括各行各業的人。
考開通寺的祖父本瑪喬提塔莫牧師
現在的Phrakhru Sunthornchotham (Luang Pu Bunma Chotithammo) Siri,82 歲(佛歷 2121 年),他來到考開通寺安息。考邁開奧區甲民武里區巴真府正在調整區域建廟宇拱門、隔間、浴室、廁所、亭子,而龍普的重要工作就是建亭子。讓會眾和門徒將利用在進行各種功課是佛教的傳承。